Cr: Crystal Bell @ MTV
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เหล่าสมาชิกในวงที่ดังที่สุดในเอเชียแสดงให้เห็นแล้วว่าไม่ได้มีเพียงด้านเดียว
เป็นช่วงเวลาที่แฟนๆต่างชื่นชอบในเพลง Likey เมื่อดาฮยอนเริ่มแรปเข้ากับเพลงจังหวะสนุก แล้วจบที่ท่า dab เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเร็วมากและไม่ได้คาดคิดมาก่อน แต่ติดตาสุดๆ การได้ชมการแสดงเพลงฮิตจากปี 2017 ของพวกเธอเพลงนี้ที่ Prudential Center เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ฉันรู้ได้สองอย่าง - หนึ่งคือดาฮยอนคือคนท่าแด๊บได้ปังที่สุดในปี 2019 นี้ และอีกอย่างก็คือ ทไวซ์นี่ก็เจ๋งเหมือนกันนะ
วงการเพลงชอบปั้นศิลปินขึ้นมา วางภาพลักษณ์และวางพวกเขาออกสู่ตลาด วงการ K-POP ก็ไม่ต่างกัน โดยเฉพาะศิลปินหญิง วงเกิร์ลกรุ๊ปของเกาหลีมักจะมีคอนเซปท์ไม่เซ็กซี่ก็น่ารัก วงเสียงร้องปังๆหรือวงที่มีภาพลักษณ์มั่นๆ แต่เพียงคอนเซปท์เดียวนั้นไม่สามารถสื่อถึงความเป็นศิลปะและความหลากหลายที่วงเกิร์ลกรุ๊ปทุกวันนี้ต้องแสดงออกมาได้อย่างเพียงพอ ทไวซ์ก็เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับสิ่งนี้
เมื่อซานะ ดาฮยอนและจื่อวีขึ้นแสดงในเพลง Dance For You ของ Beyoncé อย่างสมบูรณ์แบบด้วยท่าเต้นที่ลื่นไหล สเตจนี้แสดงถึงความเป็นผู้หญิงและความเซ็กซี่ -"แบบนี้ก็ได้เหรอ" แฟนคลับคนหนึ่งทวิตถามขึ้นมาในคอนเสิร์ต ต้องบอกก่อนว่าคำว่า 'เซ็กซี่' และ 'ดึงดูดใจ' ไม่ใช่คำที่เจอบ่อยเวลาพูดถึงทไวซ์ ซึ่งมีชื่อเสียงจากเพลงป๊อบสไตล์ลูกกวาด ท่อนฮุคที่ติดหู และท่าเต้นที่จำง่าย แต่ในค่ำคืนของวันอาทิตย์ ในการแสดงทัวร์อเมริการอบที่ 2 นี้ สมาชิกทั้งแปดคนของทไวซ์ (มินะซึ่งเป็นเมมเบอร์อีกคนกำลังฟื้นฟูปัญหาสุขภาพและไม่ได้เข้าร่วม) แสดงให้เห็นว่าพวกเธอไม่สามารถนิยามได้ด้วยภาพลักษณ์แบบเดียว
เป็นเวลาเกือบสามชั่วโมงที่ทไวซ์ได้พาเราดื่มด่ำไปกับหลากเพลงไตเติลสุดฮิต ("Cheer Up," "Yes or Yes," "What Is Love," "Dance the Night Away," เป็นต้น) และเพลงในอัลบั้ม (เพลง Strawberry ปังมาก) ผ่านสีสันอันหลากหลาย ทั้งสีดำ ทอง ขาว แดง น้ำเงิน ม่วงและชมพู อย่างที่ดาฮอยอนได้บอกกับแฟนๆ (ที่มีชื่อเรียกว่าวันซ์) ตลอดทั้งคืนว่าพวกเธอต้องการจะแสดงให้เห็นเสน่ห์ในด้านต่างๆ ผ่านสเตจหลากสีสันเหล่านี้
เทคนิคไฟที่พวยพุ่งขึ้นมาจำนวนมากบนเวที "Stuck in My Head" และ "Touchdown" นั้นก็ดีเช่นกัน
แต่พลังที่แท้จริงของทไวซ์นั้นได้รับการถ่ายทอดผ่านสเตจเพลงช้าที่พาทุกคนเปลี่ยนอารมณ์อย่าง "After Moon" ซึ่งแฟนๆต่างยกให้เป็นสเตจสำหรับมินะ สมาชิกในวงต่างร้องเพลงดังกล่าวท่ามกลางทะเลแท่งไฟสีมินท์ ซึ่งเป็นสีประจำตัวของมินะ สมาชิกบางคนถึงกับซึ้งเองด้วยซ้ำ "ฉันคิดถึงมินะค่ะ" จีฮโยกล่าวทั้งน้ำตาหลังจากการแสดงเพลงนี้จบ สเตจเพลงช้านั้นไม่ใช้เรื่องง่าย บางครั้งอาจจะทำลายบรรยากาศดีๆไปเลยก็ได้ แต่ทไวซ์ซึ่งสวมเดรสสีขาว ล้อไปกับเซ็ทการแสดงที่สื่อถึงอารมณ์บริสุทธิ์ ได้แสดงถึงการเป็นผู้แสดงที่เปี่ยมไปด้วยพลังและหัวใจ
บนเวทีนั้นมีเมนเต้นของวง โมโมะ ซึ่งแสดงอย่างเข้มข้นจนแทบหยุดหายใจ และลีดเดอร์จีฮโยซึ่งร้องโคฟเวอร์เพลง Goodbye ของแทมินอย่างไพเราะน่าฟัง แต่เป็นการเต้นแบบ contemporary ของพวกเธอต่างหากที่ยกระดับอารมณ์บนสเปเชี่ยลสเตจให้มากยิ่งขึ้น ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเปี่ยมด้วยพลังทั้งการร้องและการแสดงออก นายอน จองยอนและแชยอง แสดงเพลงประจำชาติชาวสีรุ้ง "Born This Way" ของ Lady Gaga อย่างกล้าหาญด้วยความมั่นใจและเปล่งประกาย พร้อมกับผู้ชมจากทุกเชื้อชาติ ทุกเพศ ทุกวัย ที่พากันยกธง pride สีรุ้ง ที่ส่งเสียงเชียร์อย่างกึกก้อง หลังจากการแสดง นายอนได้อธิบายว่าสเตจดังกล่าวนั้นเป็นความคิดของแรปเปอร์ แชยอง เป็นการเลือกเพลงที่กล้าหาญมากสำหรับวงเคป๊อบ ซึ่งแสดงถึงการสนับสนุนเพศทางเลือกที่หาไม่ได้บ่อยนัก
แต่มาแค่นี้ก็ไม่เรียกทไวซ์สิ ช่วงสุดท้ายของโชว์นั้นเต็มไปด้วยสีสันความตืนตาตื่นใจ เหล่าสมาชิกเข้ามายังสเตจบนปริซึมโฮโลกราฟิค สวมใส่เสื้อผ้าสีสันสดใสและรอยยิ้มที่สดใสยิ่งกว่า ปิดฉากด้วยเพลงใหม่ล่าสุดของพวกเธอ "Fancy" ซึ่งเป็นเพลงที่ทางวงได้ทดลองใส่ซาวด์ที่ดูโตมากขึ้นลงไป เสียงซินธ์ที่เปิดเพลงขึ้นมาสร้างมิติให้ดูน่าค้นหา ที่ได้ปรากฏในซิงเกิลต่างๆ นอกจากนี้ยังมีแดนซ์เบรกแบบใหม่ที่ทำขึ้นมาสำหรับโชว์ครั้งนี้โดยเฉพาะ ซึ่งสรุปรวมประสบการณ์ที่ได้รับจากคอนเสิร์ต TWICELIGHTS ครั้งนี้ว่า ทไวซ์นั้นมีอะไรอีกมากมายนอกเหนือจากคอนเสปท์ที่พวกเธอแสดงออกมา
จีฮโย นายอน จองยอน โมโมะ ซานะ มินะ ดาฮยอน แชยองและจื่อวี เป็นศิลปินที่มีหลากหลายด้าน มีความซับซ้อนมากกว่าภาพในเพลงฮิตส่วนใหญ่ที่พวกเธอได้ปล่อยออกมา ค่ำคืนที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงด้านที่แตกต่างออกไปและการถ่ายทอดอารมณ์ต่างๆ เมื่อสาวๆเดินออกมาในช่วง encore ฉันเห็นทไวซ์ที่เป็นตัวตนของพวกเธอจริงๆ ไม่ใช่ในฐานะเกิร์ลกรุ๊ปที่มีเพลงฮิตมากมายของเกาหลีใต้ แต่เป็นกลุ่มของหญิงสาวที่ปลดปล่อยเสน่ห์และความตลกออกมาอย่างท่วมท้น อีกทั้งยังรวมความเข้มแข็งและความเป็นหนึ่งเดียวไว้ด้วยกัน
เมื่อสาวๆลาจากสเตจไปบนพริซึมขนาดยักษ์ สิ่งที่พวกเธอทิ้งไว้กับผู้ชมนั้นคือภาพของหญิงสาวแปดคน (แต่มีหัวใจเก้าดวง) พากันโพสท่าแบบเล่นใหญ่พร้อมด้วยหน้าทะเล้น พากันย่อตัวลงกับพื้นตามม่านที่ปิดลงมา แต่ละคนอยากจะเอ่ยคำลาจนถึงนาทีสุดท้าย แน่นอนว่าสำหรับทไวซ์ที่ทำให้อารีน่าใน New Jersey เต็มได้ในทัวร์อเมริกาครั้งแรก นี่ดูคล้ายว่าจะเป็นคำว่าพบกันใหม่คราวหน้ามากกว่า
และในครั้งหน้าคงมีสีสันใหม่ๆให้เราได้ชมแน่นอน
Thai translation by Strawberry Queen (@Chrawberrytiger)
กรุณานำออกไปพร้อมเครดิต
ไม่อนุญาตให้นำข้อความไปโพสต์ซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต
คนเขียนโดนดุ๊บตกแล้วนะคะ ดูออก
สุดยอดคะ วงดัง 2 ประเทศ
โคตรปลื้มใจ ไม่ได้โปรโมทออกรายการอะไรเลย แต่ประทับใจสุดตรงเด็กๆมีพัฒนาการกันเยอะมากทั้งด้านภาษา การแสดง เท่าที่ดูมายังไม่มีใครบอกเลยว่า คอนทไวซ์ ไม่สนุก