คุณคงไม่สามารถจินตนาการถึงเพลง K-Pop ได้โดยไม่นึกถึง TWICE
เกิร์ลกรุ๊ปที่เดบิวต์ในปี 2015 ภายใต้บริษัท JYP Entertainment ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 9 คน ได้แก่ จีฮโย, มินะ, จองยอน, ซานะ, โมโมะ, จื่อวี, นายอน, ดาฮยอนและแชยอง ได้จารึกชื่อของพวกเธอลงในหนังสือประวัติศาสตร์เคป็อปด้วยความสดใส, ผลงานเพลงที่ยกระดับขึ้นและท่าเต้นที่ทำให้ต้องเต้นตาม ทำให้พวกเธอได้รับความสนใจจากแฟนๆทั่วโลก อีกทั้งพวกเธอยังได้รับรางวัลมากมายในช่วงการทำงานที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงรางวัล Singer of the Year จากงาน Asia Artist Awards 2019 และยังคงแต่งและแสดงเพลงที่สนับสนุนในเรื่องความมั่นใจในตัวเอง, การแสดงพลังของผู้หญิงและการให้ความสำคัญต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต
พวกเธอได้ร่วมทางกันในฐานะวงร่วมเข้าปีที่ 5 ในปีนี้ ทไวซ์ได้กลับมาพร้อมกับมินิอัลบั้มที่ 9 - MORE & MORE - ที่ปล่อยไปเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้เห็นถึงการออกมาจากกรอบเดิมๆของวงมากขึ้น เพลงทั้ง 6 เพลงในอัลบั้มแสดงให้เห็นถึงการทดลองดนตรีแนวใหม่ๆ เช่น แนวละตินป็อปในเพลง 'Firework', เนื้อเพลงที่จริงใจแต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดอย่าง 'Shadow' เปิดเผยให้เห็นถึงแนวดนตรีใหม่ๆแสดงถึงการเติบโตและเป็นหญิงสาวที่มีความมั่นใจของพวกเธอ
ซานะกล่าวถึงใจความสำคัญของเพลง MORE & MORE ซึ่งคือความรักไว้ว่า: "พวกเราให้ความสำคัญกับเนื้อเพลงที่เราต้องการจะสื่อถึงค่ะ ความรักเป็นคีย์หลักที่เราอยากใส่เข้าไป เพราะเราต้องการโชว์ให้แฟนๆเห็นว่าพวกเรารักพวกเค้า และพวกเค้ามีความพิเศษกับพวกเรามากๆค่ะ"
ครั้งนี้เราได้นัดสัมภาษณ์กับทไวซ์เพื่อคุยถึง MORE & MORE, ความหมายของแต่ละเพลง และการเติบโตของพวกเธอที่เกิดขึ้นกับแฟนๆ
1. การคัมแบ็คครั้งนี้ด้วยมินิอัลบั้ม MORE & MORE มีความหมายกับพวกคุณอย่างไรบ้าง?
จื่อวี: คัมแบ็คนี้มีความหมายกับเรามากค่ะ เพราะก็เป็นเวลาซักพักแล้วที่พวกเราทั้ง 9 คนได้กลับมาอยู่ด้วยกัน 'MORE & MORE' เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้น พวกเรารู้สึกสนุกกับการโฟกัสกับการฝึกเต้น พวกเราอยากให้การเต้นออกมาดูมีพลัง โดยจุดมุ่งหมายคือต้องการโชว์ให้แฟนๆเห็นด้านใหม่ๆของพวกเราค่ะ
นายอน: การคัมแบ็ค 'MORE & MORE' สำคัญกับเรามากค่ะ! เป็นเวลา 9 เดือนแล้วตั้งแต่เพลงล่าสุด 'Feel Speicial' ปล่อยออกมา เพราะฉะนั้นเราเลยตั้งใจอย่างมากที่จะทำให้ 'MORE & MORE' เป็นหนึ่งในเพลงที่ดีที่สุดที่มีที่เต้นที่สนุกสนาน
2. คุณคิดอย่างไรตอนที่ได้ฟังเพลง 'MORE & MORE' เป็นครั้งแรก?
ซานะ: 'MORE & MORE' เป็นเพลงที่ให้ความรู้สึกแตกต่างไปสำหรับเราค่ะ ทั้งเนื้อเพลงและท่าเต้น แต่มันแสดงให้เห็นการเติบโตทางดนตรีที่พวกทำมาในฐานะวง ตอนนั้นฉันนึกถึงวันซ์ด้วยค่ะ และคิดว่าพวกเค้าก็น่าจะสนุกไปกับเพลงเหมือนกัน!
มินะ: ฉันคิดเหมือนซานะค่ะ ท่อนฮุคของ 'MORE & MORE' แตกต่างจากทำนองในเพลงอื่นก่อนหน้านี้ของพวกเรา ซึ่งทำให้เพลงนี้โดดเด่นออกมา ฉันรักเพลงนี้ค่ะ!
3. คุณชอบเพลงไหนที่สุดในอัลบั้ม 'MORE & MORE'?
จองยอน: ฉันชอบ 'Firework' ค่ะ เพราะเพลงนี้แตกต่างจากเพลงก่อนๆของเรามากๆ และได้แรงบันดาลใจมาจากดนตรีแนวละตินด้วย
โมโมะ: เพลงที่ชอบที่สุดของฉันคือ 'Sweet Summer Day' ค่ะ มันเป็นเพลงที่น่าตื่นเต้นมาก และฉันอยากจะร้องเพลงนี้กับวันซ์เร็วๆ
ดาฮยอน: ฉันรักเพลง 'Shadow' ที่สุดเลย! ทำนองเพลงก็ดีมากๆ และฉันก็ชอบเนื้อเพลงที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกได้อย่างลึกซึ้ง
4. ในช่วงแถลงข่าวของรายการสารคดี 'TWICE: Seize the Light' จื่อวีเคยให้สัมภาษณ์ว่าอยากจะแสดงให้เห็นถึงด้านที่โตขึ้นของทไวซ์ในคัมแบ็คถัดไป คุณมีวิธีที่จะบาลานซ์ภาพลักษณ์ของทไวซ์ที่ร่าเริงสดใสที่ทุกคนรู้จักกับการเติบโตขึ้นในฐานะศิลปินและความเป็นตัวของตัวเองในอัลบั้มใหม่นี้อย่างไร?
มินะ: การบาลานซ์นั้นเกิดขึ้นกับพวกเราแต่ละคนอย่างตรงไปตรงมาและการเป็นตัวของตัวเองจริงๆค่ะ เราก็เติบโตขึ้นไปพร้อมกับแฟนๆและโลกใบนี้ แต่พวกเราก็ยังคงเป็นตัวของตัวเอง เราตระหนักถึงความสำคัญของการขยับขยายและทดลองดนตรีและท่าเต้น และอื่นๆอีกมากมายในแบบใหม่ๆ ขณะที่เราก็เติบโตขึ้นในฐานะวง
5. สำหรับฉันแล้ว 'MORE & MORE' ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเรื่องราวที่ต่อจาก 'Feel Special' - เรื่องราวความรักที่แม้จะสุกงอมแล้วแต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความวิเศษและความเชื่อใจ ตอนนี้เข้าปีที่ 5 แล้วที่พวกคุณอยู่ด้วยกันในฐานะทไวซ์ คุณได้พัฒนาความสัมพันธ์กับวันซ์และระหว่างกันและกันอย่างไรบ้าง?
จีฮโย: ฉันแทบไม่เชื่อเลยว่าเราอยู่ด้วยกันมา 5 ปีแล้ว! ฉันรักเมมเบอร์ทุกๆคนและรู้สึกขอบคุณพวกเธอมากๆ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราและวันซ์แข็งแกร่งขึ้นในทุกๆปี การสนับสนุนของวันซ์ที่มีให้เราช่วยให้พวกเราผ่านจุดที่สูงสุดและต่ำสุดมาได้ และยังเป็นตัวกระตุ้นให้พวกเราพัฒนาตัวเองให้เป็นศิลปินที่ดีและทำการแสดงให้ดีขึ้นค่ะ
แชยอง: นอกจากความสัมพันธ์ของพวกเรากับวันซ์จะดีขึ้นแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเมมเบอร์ก็แน่นแฟ้นขึ้นในทุกๆปีที่ผ่านมา เราเริ่มจากการทำความรู้จักกันในปีแรกจนตอนนี้พวกเราเป็นเหมือนกับครอบครัว พวกเรามีความเข้าใจในกันและกันมากยิ่งขึ้นค่ะ
6. เพลง 'OXYGEN' ในบรรยายถึงความรู้สึกผ่อนคลายเมื่อมองไปที่ดวงดาวบนท้องฟ้า อยากทราบว่าอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกสบายใจและรู้สึกอย่างไรที่ตนเองเป็นเหมือนสิ่งที่ทำให้แฟนๆรู้สึกสบายใจ?
จีฮโย: แน่นอนว่าความสบายใจของเราก็มาจากวันซ์ค่ะ! แม้ว่าตารางงานของเราตอนนี้จะยุ่งมาก แต่วันซ์ก็คอยให้พลังและแรงกระตุ้นกับเราอยู่เสมอ การได้รู้ว่าเราก็เป็นความสบายใจของวันซ์เป็นความรู้สึกที่พิเศษจริงๆค่ะ
จื่อวี: ฉันเห็นด้วยกับพี่จีฮโยค่ะ - วันซ์ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจอยู่เสมอ ในฐานะวง พวกเรารู้สึกขอบคุณมากๆที่พวกเราก็เป็นความสบายใจของแฟนๆของเราเช่นกัน - รวมถึงการได้มีโอกาสแบ่งปันพลังและความสุขให้กันและกัน
7. เพลง 'Shadow' ได้พูดถึงความกลัวในการแสดงออกในด้านมืดของตัวเอง - การต่อสู้กับความรู้สึกไม่ปลอดภัย, ความกลัวและความวิตกกังวลกับสิ่งต่างๆในโลกนี้ - คุณได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับสิ่งต่างๆเหล่านั้นของตนเองอย่างไร?
ดาฮยอน: ในฐานะวง พวกเราได้ผ่านเรื่องราวต่างๆมากมายตลอด 5 ปีที่ผ่านมา แต่พวกเรามักจะให้ความสำคัญกับสุขภาพกายกับสุขภาพจิตของพวกเรา เราเรียนรู้ที่จะอยู่กับความกลัวเหล่านั้นโดยพึ่งพิงกันและกัน รวมถึงวันซ์ด้วย เพื่อที่จะมีแรงลุกขึ้นสู้และมีสุขภาพที่แข็งแรงค่ะ
8. ฉันรู้มาว่านายอนเป็นคนเขียนเนื้อเพลง 'MAKE ME GO' อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้คุณเขียนเพลงนี้?
นายอน: ฉันได้ดูหนังเกี่ยวกับนักฆ่าหญิงตอนอยู่บนเครื่องบินเมื่อประมาณปีที่แล้วค่ะ ฉันยังคงรู้สึกอินอยู่กับในหนัง และกระตุ้นให้ฉันเขียนเพลงนี้ในมุมมองของนักฆ่า ฉันจึงเริ่มเขียนเนื้อเพลงและได้กลายมาเป็นเพลง 'MAKE ME GO'
9. ฉันเห็นคนพูดถึงเพลงนี้ตาม SNS ว่าแฟนๆหลายคนพูดถึงเพลงนี้ว่าให้ความรู้สึกความคล้ายกับเพลง 'LOVE FOOLISH' ที่เขียนโดยโมโมะ! คุณคิดเห็นอย่างไรกับการเปรียบเทียบนี้?
นายอน: ฉันเห็นด้วยที่เพลงนี้ให้ความรู้สึกคล้ายกับเพลง 'LOVE FOOLISH'!
โมโมะ: ใช่ค่ะ - ฉันเห็นด้วยที่ 'LOVE FOOLISH' มีความคล้ายกับเพลง 'MAKE ME GO' แม้ว่าเนื้อหาในเพลงจะแตกต่างกัน 'LOVE FOOLISH' เป็นเรื่องราวของคนๆนึงที่ตกหลุมรัก ส่วน 'MAKE ME GO' เป็นเรื่องราวของคนที่ต้องการที่จะเจอความรัก!
10. 'FIREWORK' เป็นเพลงละตินป็อปเพลงแรกของทไวซ์ เพลงแนวนี้ได้ให้แรงบันดาลใจอย่างไรกับคุณ และมีแนวเพลงไหนที่ทไวซ์อยากจะลองทำดูอีกบ้างในอนาคต?
แชยอง: 'FIREWORK' เป็นเพลงแรกสำหรับเราที่ได้ลองร้องเพลงแนวละติน พวกเราทุกคนเห็นพ้องกันว่าเรารู้สึกสนใจในเพลงแนวนี้และมีช่วงเวลาที่ดีมากตอนอัดเพลงเพลงนี้! พวกเราอยากลองแนว R&B ในอัลบั้มถัดไปด้วยค่ะ
11. 'DON'T CALL ME AGAIN' เป็นเพลงที่ถ่ายทอดความแข็งแกร่งของผู้หญิงอย่างแรงกล้า ผู้หญิงคนไหนที่เป็นแรงบันดาลใจในชีวิตให้กับคุณ?
นายอน: แน่นอนค่ะ ต้องเป็นแม่ของฉัน! ฉันตัดสินใจอยากที่จะเป็นศิลปินตอนมัธยมต้น แม้ว่าแม่ของฉันจะไม่เห็นด้วยกับฉันตอนที่ได้เข้ามาเป็นเด็กฝึก แต่เธอของคอยสนับสนุนฉันอย่างจริงจังและตอนนี้เธอก็ภูมิใจในตัวฉันมากๆ ฉันเชื่อว่าฉันมาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะการสนับสนุนจากแม่ของฉันค่ะ
จองยอน: คุณย่าของฉันเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันมากๆค่ะ ฉันอยู่กับเธอจนถึงช่วงกลางของมัธยมต้นเพราะว่าพ่อกับแม่ต้องยุ่งอยู่กับการทำงาน ฉันเคยทำการแสดงให้เธอดูและคอยบอกให้ฉันทำตามความฝันที่จะเป็นศิลปิน แต่น่าเสียดายที่คุณย่าเสียซะก่อนที่ฉันจะได้เดบิวต์เป็นทไวซ์ แต่เธอก็ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันอยู่เสมอค่ะ
12. จองยอนและแชยองได้ร่วมกันเขียนเนื้อร้องของเพลง 'SWEET SUMMER DAY' พวกคุณได้มารวมตัวกันเขียนเพลงนี้ด้วยกันได้อย่างไร?
จองยอน: 'SWEET SUMMER DAY' ได้แรงบันดาลใจมาจากความต้องการเขียนเพลงที่เหมาะกับซัมเมอร์ค่ะ! ทั้งฉันและแชยองเกิดไอเดียสำหรับเนื้อร้องและเพลงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
แชยอง: เราอยากจะเขียนเพลงสำหรับซัมเมอร์เพราะอัลบั้มของเรามีกำหนดปล่อยในเดือนมิ.ย.! ฉันเขียนส่วนของเนื้อแรป และพี่จองยอนช่วยฉันเขียนในส่วนที่เหลือของเพลง พวกเรามีแรงบันดาลใจและไอเดียเหมือนกันสำหรับเพลงนี้ เราหวังว่าพวกคุณจะชอบเพลงนี้นะ
ที่มา: https://www.buzzfeed.com/emlyntravis/twice-talk-more-n-more