Snowphobia
โรคบ้านี้มันมีด้วยเหรอ ฉันยังตั้งคำถามเหล่านั้นเสมอเมื่อเห็นเม็ดหิมะสีขาวโพลนร่วงหล่นมาจากท้องฟ้าผ่านหน้าต่างบานใหญ่ ฉันพยายามสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ไม่พบอะไรเลย ยิ่งโตขึ้นฉันก็ยิ่งสงสัยและอยากรู้สาเหตุของมัน ฉันเป็นโรคนี้ตั้งแต่ยังเด็กแต่โชคก็ยังดีที่พี่สาวฉัน คงซึงยอน
รู้ว่าเมื่อฉันเจอกับสภาพอากาศแบบนี้ต้องรับมือกับมันยังไง เธอเลยซื้อร่มสีดำขนาดใหญ่และเสื้อกันหนาวที่สามารถมอบความอบอุ่นและปกปิดร่างกายได้อย่างมิดชิด ให้ประจำทุกๆเดือนจนตอนนี้ก็มีจะครบทุกยี่ห้อแล้ว
หมอบอกกับฉันว่าไอ้โรค snowphobia อ่ะจะสามารถพบได้ในหมู่คน 1 ใน10ล้าน OMG!!!!! อ่านแล้วมันดูเว้อๆใช่ไหมหล่ะ แต่ทำไมความรู้สึกฉันในตอนนี้เวลานี้ ณ ที่แห่งนี้ เหมือนเจอคนที่ต้องเป็น 1ใน10ล้านนั้นเหมือนกับฉันหล่ะ เธอนั่งอยู่ที่ป้ายรถประจำทางหน้าร้านกาแฟของฉัน นี้ก็เป็นเวลาประมาณ 6โมงเช้าผู้คนยังน้อยอยู่เพราะมันเช้ามาก วันนี้เป็นวันที่หิมะตกลงมาอย่างหนักโดยที่ไม่ให้ตั้งตัวเลย อาการของผู้หญิงคนนั้นเธอดูสั่นมากและพร้อมที่จะวูบลงไปกับพื้นได้ตลอดเวลา เวลาก็ผ่านไปประมาณ 15 นาทีหิมะเริ่มเบาลง แล้วเหตุการณ์ที่ฉันคิดไว้มันก็เกิดขึ้นกับเธอผู้หย์งคนนั้นลุกขึ้นเพื่อที่จะไปโบกรถเมย์แต่แล้วเธอดันเกิดอาการยืนโซเซจนบริเวณลำตัวของเธอล้ำเข้าไปในถนน ฉันรีบหยิบเสื้อกันหนาวและร่มแล้ววิ่งตรงไปหาเธอคนนั้น ฉันคว้าตัวเธอได้ทันก่อนที่รถจะมาถึงป้ายหลังจากนั้นฉันได้พาเธอมานั่งพักภายในร้าน พร้อมส่งชาอุ่นๆที่พนักงานเสิร์ฟมอบให้ฉันและส่งให้เธอดื่มเพื่อคลายความหนาว ใบหน้าของเธอนั้นทำไมถึงสวยและน่ารักได้ขนาดนี้ถึงแม้ในตอนนี้หน้าเธอกำลังแดงกล่ำเพราะความหนาวก็ตาม ฟันของเธอมีลักษณะคล้ายกระต่ายที่ฉันชอบ แก้มที่อวบอิ่มพร้อมกับสีผิวที่ขาวนวลซ่ะเหลือเกิน
"คุณคะๆ ดื่มชาก่อนและก็ห่มนี้ซ่ะน่ะได้อุ่นๆ" ฉันพูดพร้อมทั้งส่งผ้าคลุมกันหนาวให้กับเธอ
"ขอบคุณน่ะคะคุณ.............."
"ยู จองยอนเรียกฉันว่า จองยอน ก็พอแล้วค่ะ" เธอส่งยิ้มมาให้ฉันพร้อมก้มหน้าเล็กน้อยแทนคำขอบคุณ
"ฉันชื่อ อิม นายอน เรียกฉันว่า นายอนก็ได้ค่ะ"
ฉันกับนายอนได้นั่งคุยเรื่องต่างๆเพื่อให้เธอได้คลายเครียดกันสักพักหนึ่ง ฉันเลยถามเข้าประเด็นที่ฉันอยากรู้
"เมื่อกี้ นายอน เป็นอะไรเหรอถึงยืนเซขนาดนั้น"
"ถ้าฉันพูดชื่อโรคไปคุณอาจจะว่าฉันบ้าหรือป่าว.........."
"snowphobia ใช่ไหม" ฉันพูดแทรกเธอขึ้นมาเพราะเธอไม่กล้าที่จะพูดมันออกมาพร้อมส่งยิ้มหวานๆไปให้เธอหนึ่งช็อต
หน้าของนายอนตกใจเล็กน้อยเมื่อฉันพูดชื่อโรคนั้นออกมา
"คุณรู้จักโรคนี้ได้ยังไงเหรอ หรือว่าคุณก็เป็นเหมือนกัน"
"ใช่แล้วฉันก็เป็นโรคนี้เหมือนกันแต่ฉันเริ่มจะรับมือกับมันได้บ้างนิดหน่อยแล้วหล่ะ แล้วทำไมคุณไม่พกร่มออกมาด้วยหล่ะหรือเสื้อกันหนาวก็ยังดี"
"เมื่อเช้าฉันรีบมากและเมื่อคืนข่าวก็บอกว่าวันนี้จะมีแดดจ้าเลยไม่ได้พกมาอ่ะค่ะ"
นายอนได้เล่าให้ฉันฟังว่า เธอมาเป็นโรคนี้เมื่อตอนเรียนจบมหาลัยเธอประสบอุบัติเหตุ เกิดจากหิมะดันมาถล่มตอนที่เธอกำลังลงจากภูเขาที่เธอปีนอยู่ทำให้เธอติดอยู่ในก้อนหิมะขนาดใหญ่เป็นเวลาหลายชั่วโมงทำให้เธอกลัวหิมะมากจนเป็นโรคกลัวหิมะ เห้อคุณนายอน ดูภายนอกเหมือนคุณจะแจ่มใสแต่ข้างในจิตใจของคุณมั่นชั่งหดหู่ซ่ะเหลือเกิน
เราสองคนนั่งคุยกันอย่างสนิทใจ จนหิมะข้างนอกหยุดตก ฉันอยากจะตะโกนออกไปเสียงดังๆจังว่าคุณน่ารักมากๆและอยากรู้จักตัวเธอให้มากกว่านี้ แต่ฉันไม่บ้าพอที่จะทำเรื่องแบบนั้นลงไป นายอนเดินมาจ่ายค่าชาที่เธอดื่มไปจนหมด พร้อมกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงที่ทำให้หัวใจของฉันสั่น เธอคนนี้กำลังจะเดินออกจากร้านไปแล้วทำอะไรสักอย่างสิ จองยอน คิดสิๆคิด และสมองก็สั่งร่างกายของฉันให้ทพสิ่งๆนั้นโดยที่ยังไม่ได้คิดทบทวน
"คุณ นายอนคะ ฉันขอเบอร์หรือ ID LINE ที่เอาไว้ใช้ติดต่อคุณจะได้ไหมคะ"
"ได้สิ ว่าแต่คุณจองยอนจะเอาไปทำอะไรเหรอ"
"......." ฉันส่งยิ้มพร้อมยื่นโทรศัพท์ให้คนตรงหน้า
"เผื่อเวลาที่คุณต้องการใครสักคนที่จะต้องเดินฝ่าหิมะไป ฉันพร้อมที่จะไปกับคุณเสมอน่ะ" ใบหน้าของคนตรงหน้านั้นแดงกล่ำไม่น่าจะเกิดเพราะอากาศหนาวเพราะข้างในอุ่นมากแต่อาจจะเป็นเพราะอีกอาการนึงแต่ฉันยังไม่กล้าคิดถึงอาการเหล่านั้น
"อืมและฉันก็อยากจะรู้จัก คุณ นายอน ให้มากกว่านี้และอย่างสุดท้ายน่ะ
ฟ้าอาจจะส่งคุณมาเป็น 1ใน10ล้านนั้นที่เหมือนกับฉันก็ได้น่ะคะ คุณ นายอน"
ฟ้าอาจจะส่งคุณมาเป็น 1ใน10ล้านนั้นที่เหมือนกับฉันก็ได้น่ะคะ คุณ นายอน" อุแง น่ารัก